ประวัติ สงครามนโปเลียน สงครามนโปเลียน (Napoleonic Wars) เป็นชุดของสงครามที่เกิดขึ้นระหว่างประเทศและพันธมิตรในยุโรปในช่วงปี 1799 ถึง 1815 ที่มีนาโปเลออน บอนาปาร์ต (Napoleon Bonaparte) เป็นตัวนำและมีผลกระทบต่ออนาธิปไตยและแผ่นดินในยุโรปในช่วงเวลานั้นอย่างมาก สงครามนโปเลียนมีบทบาทสำคัญในการรื้อถอนอำนาจของราชวงศ์นี้ และส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางทัศนศาสตร์และสังคมในยุโรปในศตวรรษที่ 19
การเริ่มต้นของสงครามนโปเลียนสามารถติดตามได้จากการล่วงลับของนาโปเลออน บอนาปาร์ต ที่ยอดเยี่ยมด้วยความสามารถในการนำพาทหารและการก่อการร้ายทางทหาร เขาได้เข้าครอบครองสาธารณรัฐฝรั่งเศสในปี 1799 และปีถัดมาได้รับการเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี ในตำแหน่งนี้ เขาได้ใช้ความสามารถในการเจรจาและการสร้างพันธมิตรเพื่อขยายอำนาจของเขาในยุโรป
สงครามนโปเลียนได้เริ่มขึ้นจากการรุกรานของนาโปเลอออนต่อประเทศออสเตรียในปี 1805 และประเทศออสเตรียตกอยู่ในสภาวะที่อ่อนแอเพราะการเนรเทศของพันธมิตร นาโปเลอออนใช้กำลังทหารและความชำนาญในการสั่งการของเขาในการได้รับชัยชนะสำคัญในการต่อสู้ที่ออสเตรียและประเทศอื่น ๆ ในยุโรป
สงครามนโปเลียนเริ่มต้นสร้างความตึงเครียดในยุโรป รวมถึงการก่อให้เกิดการแย่งชิงอำนาจของประเทศในเขตอื่น ๆ โดยเฉพาะอังกฤษ รัสเซีย และประเทศสกอตแลนด์ การต่อสู้ในสงครามนโปเลียนเกิดขึ้นในหลายฟรอนท์เทียร์และเป็นเวลานานกว่าสิบปี
นาโปเลอออนได้รับชัยชนะในสงครามนาโปเลียนหลายครั้ง แต่การรุกรานของเขาในรัสเซียล้มเหลวในการเดินทางสู่มอสโก (Moscow) และเขาต้องถอยกลับ สมรภูมิของเขาก็ถูกยุทธวิธีและโจมตีโดยพันธมิตรที่รวมอังกฤษ รัสเซีย ออสเตรีย และประเทศสกอตแลนด์ ในการต่อสู้สุดท้ายที่วอเตอร์ลู (Waterloo) ในปี 1815 เขาถูกแพ้และถูกจับตัวโดยพันธมิตร และถูกส่งไปยังเกาะเซนต์เฮเลนา (Saint Helena) โดยเจ้าพนักงานอังกฤษ
ความเป็นมา การเปลี่ยนแปลง ประวัติ สงครามนโปเลียน
ประวัติ สงครามนโปเลียน สงครามนโปเลียนส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางทัศนศาสตร์และสังคมในยุโรป ประเทศออสเตรียถูกเนรเทศและกลับเป็นจักรวรรดิองค์เดียวในยุโรป รัฐสภาว่าการของยุโรปถูกสร้างขึ้นโดยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และเป็นกระบวนการที่ปราศจากการใช้พลังทางทหารในการแก้ไขสถานการณ์ นอกจากนี้ยุโรปยังเป็นพื้นที่ที่เกิดการส่งเสริมสันติภาพและการร่วมมือระหว่างประเทศ ผ่านการสนับสนุนวัฒนธรรมและวิชาการ
สงครามนโปเลียนสร้างแนวคิดและความเปลี่ยนแปลงในสาขาต่าง ๆ ของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีการพัฒนาเรือดำน้ำ ระบบการสื่อสาร การใช้กำลังไฟฟ้า และการขนส่งรางเบา ซึ่งส่งผลให้เกิดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และวัฒนธรรม
นอกจากนี้สงครามนโปเลียนยังมีผลกระทบต่อการก่อให้เกิดการปฏิวัติในยุโรป การขนานนาม (Nationalism) เกิดขึ้นเป็นองค์กรและแรงจูงใจสำคัญในการต่อสู้และสร้างชาติใหม่ และเกิดการเคลื่อนไหวเมืองชนชาติในยุโรป ที่ส่งผลให้เกิดการปฏิวัติชาวชนชาติในประเทศต่าง ๆ เช่นเยอรมนี อิตาลี และกรีซ
สงครามนโปเลียนเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในประวัติศาสตร์ยุโรป ซึ่งมีผลกระทบอย่างมากต่อสังคม วัฒนธรรม และการเมืองในยุโรปในศตวรรษที่ 19 และยังเป็นการบ่งบอกถึงความสามารถในการใช้กำลังทางทหารและความสำเร็จที่เฟ้นหาอย่างสูงสุดของนาโปเลอออนในการต่อสู้ แต่เชื่องช้างานวิจัยและการสังเกตการณ์ระบุว่าระบบการค้าวานิช เศรษฐกิจของยุโรปร่วมทำให้สงครามนาโปเลียนเกิดขึ้นได้และไม่ใช่เพียงแค่ภารกิจของนาโปเลอออนเท่านั้น
จักรพรรดิ์ของฝรั่งเศส นักรบปฏิวัติทางทหาร
หลังจากการเจรจาปิดเมืองแห่งวอร์สออนในปี 1802 นาโปเลอออนประกาศตัวเองว่าเป็นนักรบปฏิวัติทางทหาร และในปี 1804 เขาถูกสรรหาเป็นจักรพรรดิ์ของฝรั่งเศสในตำแหน่งจักรพรรดิ์นับที่หนึ่ง แต่ในความเป็นจริงแล้ว เขาเป็นผู้นำเอกสำคัญที่สร้างสรรค์ระบบการปกครองที่เรียกว่าอาณานิคมประเทศฝรั่งเศส โดยใช้สหธรรมชาติและรัฐประศาสนศาสตร์ เขาปฏิวัติการศึกษา กฎหมาย การศักดิ์สิทธิ์ และระบบสาธารณรัฐที่รับรู้การเลือกตั้งในการปกครอง
ในช่วงที่เป็นจักรพรรดิ์ เขาเริ่มแผนการสงครามที่มีวัตถุประสงค์ในการยึดครองยุโรป โดยเขาครอบครองเยอรมนี ออสเตรีย อิตาลี และประเทศสก็อตแลนด์ ในช่วงแรกของสงครามนาโปเลียน เขาสามารถแพ้และเอาชนะกองทัพของประเทศอื่น ๆ อย่างเมื่อเขาเข้ายึดครองอียิปต์และตำนานเพื่อนบ้านของโลกเกิดขึ้นในบางประเทศ การต่อสู้ที่ยากลำบากก็ได้สิ้นสุดลงเมื่อเขาถูกจับตัวเมื่อสามารถเข้าสู่รัสเซียได้ในปี 1812
นาโปเลอออนจะต้องต่อสู้ในสงครามรัสเซียในการต่อสู้กลับไปยังฝรั่งเศส ซึ่งกองทัพของเขาเสียเขาพบว่ารุนแรงมากในการล่าเพราะเงื่อนไขทางธรรมชาติ ภารกิจและการระบาดของโรค จำนวนคนที่สงสัยถึงจำนวนคนที่สงสัยถึงกองทัพเรือของเขาในที่ที่เขายังคงเป็นความรู้สึกของเขาเมื่อเขายังอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ในที่สุดเขาถูกแพ้และถูกจับตัวในนัดสุดท้ายที่มีการต่อสู้ที่วอเตอร์ลูในปี 1815 ที่ทำให้สิ้นสุดสงครามนาโปเลียน นาโปเลอออนถูกจับตัวและถูกจัดส่งไปยังเกาะเซนต์เฮเลนา เขาจะไม่เคลื่อนย้ายออกจากเกาะนี้จนถึงตายเมื่อปี 1821
สงครามนาโปเลียนมีผลกระทบใหญ่ต่อเกิดการเปลี่ยนแปลงทางทัศนศาสตร์และสังคมในยุโรป มันส่งผลให้เกิดการเคลื่อนไหวประชากรและการพัฒนาเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่ยาวนาน สงครามนาโปเลียนยังเป็นเหตุผลให้เกิดการเคลื่อนไหวนานาชาติที่ยุโรป และส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม การค้นพบแร่ธาตุใหม่ และการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่รุนแรงก็เกิดขึ้นในอกเหนือจากนั้น สงครามนาโปเลียนยังมีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงทางทหารและกลยุทธ์สงคราม กองทัพได้รับการพัฒนาและปรับปรุงในเรื่องขององค์กรและกลยุทธ์การต่อสู้ ความสามารถในการสื่อสารและขนส่งก็ได้รับการพัฒนาเพื่อให้สามารถสื่อสารและเคลื่อนย้ายกองทัพได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้สงครามนาโปเลียนยังมีผลกระทบในด้านการศึกษา วัฒนธรรม และศิลปวัฒนธรรมในยุโรป การสั่งสมมานามในยุโรปได้รับการสนับสนุนและการกระตุ้นให้เกิดการศึกษาที่สอดคล้องกับความต้องการของสังคมและอุตสาหกรรม สถาบันการศึกษาได้รับการพัฒนาและเจริญเติบโต และความรู้ใหม่ๆ ได้รับการกระจายไปยังมวลชนมากยิ่งขึ้นประวัติ สงครามนโปเลียน
ในที่สุดสงครามนาโปเลียนได้สร้างสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงในยุโรป สถานะการเมืองเปลี่ยนแปลงไปจากการปกครองของราชวงศ์เดียวเป็นระบบรัฐสภาว่าการที่สามารถแทนที่ได้ สังคมยุโรปเริ่มเคลื่อนไหวในทางของการสืบสานและอิสระสำหรับชนชั้นและกลุ่มที่ถูกลดลงกำลัง ฝ่ายรัฐบาลของยุโรปเริ่มเชื่อถือในความสำคัญของการปกครองโดยกฎหมายและความยุติธรรม และประชาธิปไตยเริ่มเกิดขึ้นในประเทศบางประเทศ
สงครามนาโปเลียนเป็นแผ่นดินสำคัญในประวัติศาสตร์ที่มีผลกระทบใหญ่ในยุโรป มันได้รับการศึกษาและวิเคราะห์อย่างกว้างขวางโดยนักประวัติศาสตร์และนักวิจัย และยังมีอิทธิพลต่อการพัฒนาสังคมและการเมืองในยุโรปในศตวรรษที่ 19 โดยเฉพาะในด้านการสร้างระบบรัฐประศาสนศาสตร์และการแบ่งส่วนราชการ นอกจากนี้ยุโรปยังต้องเผชิญกับภัยคุกคามอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 19 อย่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งเป็นผลมาจากความขัดแย้งและการแข่งขันทางเศรษฐกิจและการเมืองที่มีรากฐานมาจากสงครามนาโปเลียน